สูตรนาโนชนิดแข็ง

ระดับความแข็ง H9

ความหนาฟิล์ม 5-10 ไมครอน

ความคงทน 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับความถี่ในการล้าง

เคลือบผิวสีรถโดยไม่ต้องอบสีด้วยสูตรน้ำยาแห้งไว

สามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องมีเครื่องมือพิเศษใดๆ

น้ำยาขวด 20cc สามารถเคลือบรถ Suv ได้ 1 คัน

ประโยชน์ของการเคลือบแก้ว

การเคลือบแก้วสีรถก็คือการห่อหุ้มสีรถด้วยฟิล์มบางๆที่มีความแข็ง

แต่ยืดหยุ่นได้

ฟิล์มบางๆจะช่วยปกป้องสีรถได้ดี

จากสภาวะต่างๆ เช่น

แสงแดด

ขี้นก -ป้องกันรอยด่างได้ดี

คราบไคล

น้ำไม่เกาะ

ล้างรถได้ง่าย

ทำให้สีรถดูสดใส สีฉ่ำอยู่ได้นาน

ป้องกันรอยขีดข่วนเล็กๆ

เหมาะสำหรับ

กิจการคาร์แคร์

เจ้าของรถทั่วไป

ขั้นตอนง่ายๆ

1.ล้างรถให้สะอาด

2.ขัดลบรอยขนแมว(ถ้ามี)

3.ล้างคราบน้ำยาขัดออก แล้วเช็ดให้แห้ง

4.ลงน้ำยา โดยใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที

หลังจากนั้น

ห้ามรถโดนน้ำ 24 ชม

ห้ามล้าง 7วัน

เมื่อครบ7วัน ให้นำรถมาล้าง

แล้วเคลือบน้ำยาเพิ่มความเงาหรือลงแวกส์ทั่วไป(ไม่เคลือบก็ได้)

เพื่อเพิ่มความเงางาม

แล้วหลังจากนั้น ทุกครั้งที่ล้างรถ

ควรเคลือบสีด้วยน้ำยาทั่วไป(ไม่เคลือบก็ได้)

เพื่อคงความเงาของรถให้ดูสวยงาม

การบำรุงรักษาหลังเคลือบแก้ว

1.ไม่ควรขัดสีรถ เพราะจะทำให้ฟิล์มหลุดได้

2.ควรเคลือบแก้วซ้ำทุกๆปี เพื่อสร้างชั้นฟิล์มให้หนาขึ้น

เพราะทุกครั้งที่ล้างรถ ฟิล์มแก้วจะค่อยๆบางลงทีละน้อย

กรณี รถที่มีรอยขนแมวหรือคราบสกปรกมากๆ

ให้ขัดผิวด้วยน้ำยาขัดละเอียดก่อน

หากไม่ขัดผิวหรือผิวไม่สะอาด

น้ำยาเคลือบแก้วก็จะเคลือบสิ่งเหล่านั้นไปด้วย

ซึ่งก็ไม่ได้เป็นผลเสียอะไร

เพียงแต่หากสังเกตใกล้ๆ จะเห็นความไม่เรียบเท่านั้น

คล้ายๆกับการทาสีชิ้นงานโดยไม่ขัดผิวก่อน

ก็จะเห็นความไม่เรียบของชิ้นงาน

ข้อแนะนำ

1.รถใหม่ ป้ายแดง จะสามารถเคลือบแก้วได้ทันที โดยไม่ต้องเตรียมผิว

จะช่วยปกป้องสีรถได้ดีมาก ซึ่งทำให้สีรถคงทนได้ยาวนาน

2.รถที่ออกจากโชว์รูม ในช่วง1-6 เดือน หากเคลือบแก้ว

จะช่วยปกป้องสีรถได้ดีมาก

3.พื้นผิวสีรถ ยิ่งสะอาด ยิ่งเหมาะแก่การเคลือบแก้ว

ภาพตัวอย่าง

รถที่เคลือบแก้วด้วยน้ำยา AKIRA(อะคิร่า)

ภาพตัวอย่าง

รถที่เคลือบแก้วด้วยน้ำยา AKIRA

Mercedes Benz

ไม่ได้เตรียมพื้นผิว

ล้างรถให้สะอาด แล้วลงน้ำยา

Isuzu

MU-X

ไม่ได้เตรียมพื้นผิว

เพียงล้างรถแล้วลงน้ำยา